เมล็ดเพาะต้นอ่อน เบบี้คะน้า (Kale Microgreen) SUPERTOP ขนาด 1 KG.

คุณค่าทางโภชนาการของต้นอ่อนเบบี้คะน้า นักโภชนาการได้ศึกษา คุณค่าทางโภชนาการของต้นอ่อนเบบี้คะน้า ปริมาณ 100 กรัม พบว่า ให้พลังงาน 24 กิโลแคลอรี มีสารอาหารต่างๆ ประกอบด้วย โปรตีน 2.7 กรัม คาร์โบไฮเดรต 2.2 กรัม แคลเซียม 245 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม วิตามินซี 147 มิลลิกรัม กากใยอาหาร 3.2 กรัม สรรพคุณของต้นอ่อนเบบี้คะน้า มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ[C1] ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื้น ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ช่วยบำรุงโลหิต ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยลดอาการไมเกรน ช่วยชะลอความจำเสื่อม ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระเพาะอาหาร ป้องกันมะเร็งลำไส้ ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ป้องกันมะเร็งปอด ป้องกันมะเร็งเต้านม ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยรักษาโรคหอบหืด ช่วยขยายหลอดลม ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ ป้องกันการเกิดตะคริว รักษาสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจน ควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการที่เด็กทารกพิการแต่กำเนิด โทษของต้นอ่อนเบบี้คะน้า สารกอยโตรเจน ( Goitrogen ) ที่อยู่ในผักคะน้า ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ ทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุไอโอดีน และทำให้การสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ลดประสิทธิภาพลง การรับประทานผักคะน้า ในปริมาณที่เหมาะสม วัสดุ - อุปกรณ์ 1.เมล็ดเบบี้คะน้า 40-50 กรัม 2.ถาดเพาะไร้ดิน 3.กระบอกฉีดแรงดัน 4.กระดาษ Paper Plant วิธีการปลูกต้นอ่อนเบบี้คะน้าแบบไร้ดิน 1.ล้างเมล็ด 1-2 น้ำ และแช่เมล็ดในน้ำอุณหภูมิปรกติประมาณ 6-8 ชั่วโมง 2.เติมน้ำใส่ถาดเพาะประมาณครึ่งถาด วางตะแกรงขาว แล้วนำกระดาษ Paper Plant วางบนตะแกรง สเปรย์น้ำให้ความชื้นทั่ววัสดุเพาะ 3.โรยเมล็ด โดยห้ามให้เมล็ดซ้อนทับกัน จากนั้นวางกระดาษ Paper Plant แล้วสเปรย์น้ำอีกครั้ง ( สามารถนำกระสอบป่านชุบน้ำหมาดวางทับกระดาษอีกชั้นเป็นการควบคุมความชื้นระหว่างวัน ) 4.ทำการทับถาด 24 ชั่วโมง (ในช่วงทับถาดควรมีการเปิดสเปรย์น้ำ 2-3 ครั้งต่อวันตามสภาพอากาศแต่ละวัน) **การทับถาดเพื่อให้รากแทงวัสดุรองเพาะลงตะแกรงเพื่อดูดน้ำได้ไวขึ้น และขึ้นพร้อมเพียงกัน 5.หลังจากทับถาดครบ 24 ชั่วโมง กระจายถาดออก แล้ววางไว้ที่ร่มรำไร 6-7 วัน สามารถตัดเพื่อไปรับประทานได้